Sponsor Advertisement

การวิเคราะห์ปัญหาของเครื่อง M 43 ปี 96

 เป็นคำถามที่ถามเชิงวิเคราะห์ และให้รายละเอียดอาการได้ดีมากๆ
เครดิต คุณ peek2247 แห่ง www.e36thailand.com

คำถาม:
รถผมใช้งานมาปกติทุกอย่าง ก่อนมีปัญหา ผมจอดรถไม่ได้ใช้งานประมาณ 4-5วัน
พอจะใช้งานวันนั้น ผมสตาร์ทเครื่องยนต์ครั้งเดียวก็ติด แต่รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ประมาณ
1400-1500รอบ และรอบเครื่องก็ไม่ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ800-900รอบ เหมือนปรกติ
แต่ผมก็ขับออกไปได้ประมาณ1-1.5 กม. รถก็มีอาการเครื่องยนต์กระตุกวูบๆ สุดท้ายก็ดับแบบจอดสนิท ผมก็สตาร์ทประมาณ4-5ครั้งก็ติด(ไม่เคยสตาร์ทหลาดครั้งขนาดนี้มาก่อน) แล้วก็ขับต่อไปอีกประมาณ 1 กม.เครื่องยนต์ก็ดับอีก ดับครั้งนี้สตาร์ทไม่ติดเลย สุดท้ายต้องลากเข้าอู่ซ่อม.... ช่างเช็คเบื้องต้น เช็คระบบไฟที่หัวเทียนก็มาปกติ เช็คระบบน้ำม้นก็มาปกติ เช็คแรงดันปั้มติ๊กโดยเอามืออุดปลายสายน้ำมันแล้วลองสตาร์ทดูน้ำมันพุ่งแบบ มืออุดไม่อยู่ เช็ครางหัวฉีดโดยการถอดรางหัวฉีดออกจากแท่นยึดแล้วต่อเข้าระบบลองสาร์ทดู รางหัวฉีดก็เปิด น้ำมันฉีดออกทางหัวฉีดดีทุกหัว พอประกอบเข้าระบบก็ยังสาร์ทไม่ติด ช่างก็ลองเปลี่ยนรางหัวฉีดดู โดยใช้ของมือสองใส่แทน สตาร์ทอยู่พักใหญ่ปรากฏว่าเครื่องยนต์ติด รอบเครื่องยนต์ประมาณ800-900รอบ ปกติแต่พอดับเครื่องยนต์แล้วลองสตาร์ทใหม่เครื่องยนต์ก็สตาร์ทไม่ติดอีก เปลี่ยนกรองน้ำม้นเชื้อเพลิงก็ยังสตาร์ทไม่ติด ช่างทดลองเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ทั้ง4หัวเลย ครั้งนี้ สตาร์ทครั้งเดียวติดเลย ทดลองดับเครื่องยนต์แล้วสตาร์ทใหม่ครั้งเดียวก็ติด ผมก็เอารถกลับบ้าน ระหว่างเดินทางประมาณ 200 กม. จอดดับเครื่องยนต์หลายครั้งสตาร์ทครั้งเดียวติดตลอด แต่พอวันรุ่งขึ้นจะเดินทางไปต่างจังหวัด สตาร์ทไม่ติดอีก แต่ก็ทนสตาร์ทอยู่นานสุดท้ายก็สตาร์ทติดจนได้ ระหว่างเดินทางประมาณ800-900กม. จะดับเครื่องยนต์หรือจอดกี่ครั้งก็สตาร์ทครั้งเดียวติดตลอด พอถึงบ้านจอดข้ามคืนวันรุ่งขึ้นสตาร์ทไม่ติดอีก ครั้งนี้ สตาร์ทนานมากจนแบตเตอรี่เริ่มมีอาการอ่อน แต่ก็มีไฟพอที่จะสตาร์มได้แต่ก็สตาร์ทไม่ติด บ้านต่างจังหวัดของผมไม่ช่างที่มีขีดความสามารถในการซ่อมรถ BMW เลย ผมก็คิดไปต่างๆ นานา ว่าทำยังไงรถเราจะวิ่งได้ ก็ลองถอดแอร์โฟร์และกรองอากาศออกมองเข้าไปในท่อกากาศก็เห็นปีกผีเสื้อ ก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อเพราะเราไม่ใช่ช่าง ถ้าจะให้ตอบ...ก็คงถอดเพราะความอยากรู้อยากเห็น และสงสัยบางอย่าง....ปากก็บ่นไปตามเรื่อง..... ผมก็ไม่รู้คิดยังไง ก็ลองไปสตาร์ทเครื่องยนต์เข้าทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ประกอบใส่อุปกรณ์ที่ถอดเลย ครั้งเดียวเท่านนั้นเอง เครื่องยนต์มันดันติดขึ้นมาทันทีทันใด แบบง่ายมากๆ ผมดีใจมาก ตอนเครื่องยนต์ติดรอบเครื่องพุ่งขึ้นไปประมาณ1400-1500รอบ แล้วคอยลดลงมาสวิงจนเกือบจะดับอยู่ระหว่าง200-800รอบ ก็เลยลองดับเครื่องยนต์แล้วก็สตาร์ทใหม่ก็ติดอย่างง่ายเช่นเดิม แล้วก็อาการเหมือนเดิม เครื่องยนต์สวิงขึ้นลงตลอดเวลา สุดท้ายผมก็ลองประกอบอุปกรณ์แอร์โฟและกรองอากาศกลับเข้าที่เดิมอย่างถูกต้อง แล้วลองสตาร์ทดูอีกที ครั้งนี้ มันไม่ติดอีก จะสตาร์ทกี่ครั้งมันก็ไม่ติด ก็เลยทดลองถอดปลั๊กแอร์โฟออกอย่างเดียวแล้วลองสตาร์ทดู เครื่องยนต์มันติดขึ้นมาทันที ตอนติดรอบเครื่องก็พุ่งขึ้นไป1400-1500รอบเหมือนเดิม แล้วก็สวิงเกือบจะดับอยู่ตลอยเวลา(สวิงอยู่ระหว่าง200-800รอบ) พอผมเอาปลั๊กแอร์โฟร์ใส่ ทันทีที่ใส่รอบเครื่องยนต์จะขึ้นพุ่งขึ้นไปอยู่ที่1200-1300รอบ แล้วค่อยๆ ลดลงมาอยู่ที่800-900รอบ เครื่องยนต์เดินเรียบ ไม่มีอากาศสวิง วิ่งออก ตอบสนองดีเหมือนรถที่ไม่มีปัญหาเลย ปัจจุบันนี้ เวลาจะสตาร์ทเครื่องยนต์ จะต้องถอดปลั๊กแอร์โฟร์ก่อนเพื่อสตาร์ทให้ติด - และใส่คืนเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานปกติทุกครั้ง ถ้าเช่นนั้นสตาร์ทไม่ติด

อยากถามท่านสมาชิก e36 ว่า......
1.แอร์โฟร์ของผมเสียหรือไม่...?
1.1 ถ้าบอกว่าไม่เสีย...ใส่แอร์โฟร์แล้วทำไมสตร์ทไม่ติด.....?
1.2 ถ้าบอกว่าเสีย...เมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้ว เครื่องยนต์จะสวิงมาก เกือบจะดับ พอใส่ปลั๊กแอร์โฟร์ เครื่องยนต์จะทำงานปกติทันที วิ่งและตอบสนองดี
ทุกอย่าง รอบเครื่องเข้าภาวะปกติไม่ได้แสดงอาการของการมีปัญหา
หมายเหตุ เคยถอดแอร์โฟร์ออกมา ใช้มือดันลิ้นปิดเปิดของแอร์โฟร์ ก็ไม่ได้แสดงอาการติดขัดอะไร นิ่ม สปิงเด้งกลับดี..
2.วาวล์กักแรงดันน้ำมันไม่ดีหรือไม่
- ถ้าไม่ดี ถอดแอร์โพร์แล้วทำไมสตาร์ทติด ง่ายจัง..
3.เกี่ยวกับเซนเซอร์หน้าเครื่องหรือไม่ แล้วเซนเซอร์หน้าเครื่องมันคือตัวไหนหรือครับ มันมีหน้าที่อะไรครับ...?
4.อยากให้ท่านสมาชิกชาว e36 ทุกท่าน ช่วยวิเคราะห์ แนะนำข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งช่างที่ชำนาญการเกี่ยวกับเครื่องยนต์ m43 อู่..สถานที่ซ่อมบำรุงที่น่าเชื่อถือและ
ไว้ใจได้ให้หน่อยนะครับ เพราะทุกวันนี้ผมต้องถอดแอร์โฟร์ ก่อนสตาร์ททุกวันเลยครับ
5.เวลาเปิดแอร์ จะได้ยินเสียงลมดัง "ฟิต" ดังสั้นๆ อยู่แถวๆ ใต้คอลโซลหน้าคนขับทุกครั้งที่เปิดแอร์ เสียงลมดัง "ฟิต" ที่ว่านี้ คือลักษณะการทำงานของอะไรหรือครับ....?
ปกติหรือไม่....?

..........ขอบคุณครับ.........

คำตอบก็มีหลายทางแต่เน้นน้ำหนักไปที่ AirFlow
--------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ mamestandard
เดาครับ อยากจะช่วยแต่ก็ได้แค่เดา

ผมเดาว่าแอร์โฟลว์นั่นแหละที่มีปัญหา

เบื้องต้นลองหาแอร์โฟลว์ มาสับดูก่อนนะ
--------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ PANZER SS
ผมอ่านแล้วก็งงๆ เหมือนกันแฮะ ไอ้ที่เวลาข้อความมันเยอะๆ เนี่ยะ (พิมพ์เองยังเบื่อเองเลย)
มาอ่านของคุณแล้วเยอะจริงๆ แต่ก็เป็นประโยชน์ในการตอบมากครับ

อาการนี้อาจเรียกได้ว่า แอร์โฟล์น่าจะมีปัญหา แต่ยังไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าเสียหรอกครับ
อาจด้วย สาเหตุ

1. ลิ้นปิดเปิดให้ตัวได้ยังไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น อาจปิดเปิดแบบลื่นมากเกินไป
หรืออาจปิดเปิดแบบฝืดจนเกินไป ถ้าอาการมาจากลิ้นปิดเปิดลื่นมากจนเกินไป ก็ด้วยสาเหตุ
ของอายุไอ้เจ้าแอร์โฟล์นั้นแหละที่ค่อนข้างจะนานแล้ว สปิงที่อยู่ด้านในกล่องสีดำ อาจล้า ทำให้
ระยะหน่วงของสปิงลื่นจนเกินไป วิธีแก้ไขก็ด้วยการเปิดฝาสีดำเพื่อปรับตั้งระยะสปิงใหม่ ให้มีความ
ตึงของระยะสปิงด้านในครับ (วิธีนี้ ต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญ (ช่างที่รู้จริง) หรือ อาศัยตัวท่านเองแหละ
(อันนี้ก็ต้องเรียกว่าเสี่ยงเอา) (ล้อเล่นครับปรับตั้งด้วยตัวเองและทดลองกับรถของเราก่อนประกอบกลับเข้าที่เดิมครับ)
ส่วนปัญหาถ้าเกิดจาการปิดเปิดที่ไม่ดีพอ หรือที่เราเข้าใจก็คือ ลิ้นปิดเปิด มันฝึด ให้ตัวไม่สะดวกนั้นเองครับ
วิธีแก้ไขก็ถอดแผ่นด้านล้างมาขัดล้างทำความสะอาดครับ

2. สาเหตุที่สอง ก็อาจมาจากระบบอากาศเกิดรอยรั่ว ที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง แบบที่เรียกว่า
อากาศรั่วมากจนเกินไป เช่น ท่อยางมอเตอร์เดินเบาหลุด ท่อเวคกรั่มมอากาศ ฉีก ขาด หลุด
หรือท่ออากาศหม้อลมเบรคหลุด ฉีก ขาด วิธีแก้ไขก็ตรวจเช็ค หาจุดดังกล่าวให้เจอ จากนั้นเปลี่ยน
ไอ้ท่อที่พบว่ารั่ว ฉีก ขาด เส้นนั้นใหม่ ครับ

ไงลองดูในเบื่องต้นตามนี้ก่อนนะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------
คุณ tiamsanit
อาจจะเกี่ยวกับ sensor หน้าเครื่องครับ เซ็นเซอร์อาจจะยังไม่เสียทีเดียว คือกำลังจะไป
แต่ถ้า sensor ตัวนี้พังแล้ว ไฟจะไม่มาที่หัวเทียนครับ ลองดูทั้งตัวบน+ล่างนะครับ
ความต้านทานบนประมาน 1250 ตัวล่างประมาน 600 โอมห์ ครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------
Share on Google Plus

About Surapong Suksang

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 ความคิดเห็น: