Sponsor Advertisement

สัมภาษณ์ แชมป์ยิมคาน่าประเทศไทย และนักแข่งรถยนต์ทางเรียบ ‘ปอม-อิสระ ลิ้มธเนศกุล’


เรื่อง : กองบรรณาธิการ  ภาพ : พัลลภ สื่อสัมฤทธิ์
30หนุ่มล่ำดีกรีแชมป์ยิมคาน่าประเทศไทย และนักแข่งรถยนต์ทางเรียบ ปอม-อิสระ ลิ้มธเนศกุล’ 
ตอนนี้รับหน้าที่เป็นสถาปนิกประจำบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่กำลังเอาดีด้านการออกแบบอย่างจริงจัง 
นอกเหนือจากงานหลักที่กำลังก้าวเข้าสู่ความเป็น Senior Architect แล้ว 
หนุ่มคนนี้กำลังเอาดีด้านการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบด้วยเช่นกัน...

กับคำถามที่ว่า  คุณเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตได้อย่างไร?”
นายปอมเปิดใจเล่าให้ฟังว่า
           “ช่วงผมเป็นนักศึกษา ตอนนั้นก็เหมือนเด็กทั่วไปที่ชื่นชอบการแต่งรถชอบรถแข่งชอบรถซิ่ง ตอนนั้นคุณพ่อเป็นคนซื้อรถให้เองกับมือ รถคันนั้นคือฮอนด้าซีวิค 3 ประตูที่ใช้อยู่ปัจจุบันนี่แหละ...
จากจุดนั้น ปอมก็เริ่มแต่งรถมาเรื่อยๆ ทั้งแต่งภายนอก แต่งภายใน วางเครื่องยนต์ใหม่ เปลี่ยนช่วงล่าง หวังทำรถให้ขับสนุกขึ้น แล้วพอถึงจุดๆ หนึ่งนายปอมก็เล่าวีรกรรมให้ฟังว่า
           “ช่วงนั้นมีเพื่อนไปแข่ง Midnight Racing ผมก็ตามไปแข่งบ้าง จากนั้นเริ่มออกวิ่งตอนกลางคืน     เริ่มขับหนีการจับกุมของตำรวจหลายคนรู้ว่าเป็นการแข่งเถื่อน ซึ่งตอนนั้นเรียกว่าแอบเล่นตามเพื่อน แข่งรถประเภทนี้ได้ไม่นาน  จุดหักเหที่ทำให้ผมเริ่มหันมาสนใจการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในสนามมากยิ่งขึ้น ก็เพราะมองเห็นถึงอันตรายของการแข่งรถแบบ Midnight Racing”    
           “เพื่อนผมเริ่มเสียชีวิตไปทีละคน         บางคนก็พิการประกอบกับช่วงนั้น  Drag Racing กำลังบูมมาก     มีหลายสนามให้เลือกลง         เช่น พีระเซอร์กิต, สนาม MMC,Red Heartผมก็เริ่มออกเดินสายแข่งตามสนามเหล่านั้นและก็แข่งแบบ Midnight ควบคู่ไปกับการแข่งแบบ Blacket ตามสนามบ้างจากนั้น Drag Racing ก็เริ่มถึงจุดอิ่มตัวคือมันไม่สนุกเหมือนช่วงแรกแล้ว
 “ผมมองเห็นจุดหนึ่ง คือ         มันไม่มีอะไรสนุกเลย นอกจากจะถมเงินลงไปและก็หมด พอสู ้คู่แข่งไม่ได้ก็ยิ่งถมเงินเข้าไปอีก มันไม่ใช่เรื่องน่าสนุก...ประกอบกับตอนนั้นมีนิตยสาร Racing Club ที่ทำเกี่ยวกับการแข่งขันรถยนต์     ผมอ่านคอลัมน์หนึ่งเกี่ยวกับAuto   Crossและการแข่งขัน Drift – Gymkhana ซึ่งดูแล้วการแข่งรถประเภทนี้ก็น่าสนใจดี        จึงตัดสินใจโดดเข้า สู่วงการมอเตอร์สปอร์ตแบบเต็มตัวเป็นครั้งแรกด้วยการแข่งขันยิมคาน่าอย่างเป็นทางการ
 “ประมาณว่าอยากรู้อยากลองก็เลยมั่วเข้าไปลองแข่ง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มแรกที่เข้าไปในสนามแข่งขันแบบจริงจัง ที่สำคัญคือผมเองก็ประสบความสำเร็จตั้งแต่สนามแรก  ได้ถ้วยมาครองสมใจอยาก ทั้งที่รถยังแต่งมาเพื่อแข่ง Midnight และ Drag Race ก็เลยเป็นจุดหักเห ที่ทำให้ผมคิดว่าเรามาทางนี้น่าจะรุ่งกว่า
 “ตอนแรกยอมรับว่าไม่ได้คิดจะรุ่งกับการแข่งแบบนี้ คิดแค่ว่ามันสนุกกว่าที่เคยแข่งมาก็เท่านั้น การแข่งยิมคาน่าได้ใช้ฝีมือได้ใช้ทักษะการขับรถ ได้วัดใจกันแบบคนต่อคน ไม่ได้อาศัยหรือพึ่งแต่กำลังรถอย่างเดียว กับคำว่า เสน่ห์ของยิมคาน่า’ หนุ่มปอมให้คำนิยามว่า
มันเป็นการแข่งขันที่ใช้คนมากกว่ารถ เป็นการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ต้องใช้ฝีมือคนขับวัดกันมากกว่าที่จะใช้การเซ็ตติ้งรถหรือใช้ทีมเวิร์คแบบเซอร์กิต ยิมคาน่าเป็นการแข่งขันที่วัดกันด้วยสมอง การจดจำเส้นทางเป็นสิ่งจำเป็น การวาดไลน์ในสมองต้องแม่นยำไม่มีแบงค์สีแดงขาวให้เห็น มีแต่ไพล่อนเต็มไปหมด มันคือการใช้สมองควบคู่ไปกับทักษะการขับ
เมื่อถามว่าปรับตัวนานหรือไม่กับการแข่งยิมคาน่า นายปอมบอกว่า
มันไม่ใช่การปรับตัว แต่เป็นการฝึกฝนมากกว่า ผมใช้เวลาฝึกนานพอสมควรแต่ก็ไม่ได้นานมากจะเรียกว่าขยันและสม่ำเสมอก็ว่าได้   ช่วงปีแรกซ้อมชนิดว่างเมื่อไหร่ก็ไปซ้อม อาทิตย์ละครั้งเดือนละ 2-3ครั้ง
นอกจากลงแข่งขันยิมคาน่าแล้ว  การแข่งขันแบบเซอร์กิต
นายปอมก็ยังแอบให้ความสนใจเช่นเดียวกัน  โดยล่าสุดหนุ่มคนนี้
ได้ร่วมลงแข่งขันในรายการรถยนต์ทางเรียบชื่อดังอย่าง  Honda Racing Fest นอกจากนี้ก็ยังมีรายการSuper Club ซึ่งทั้ง 2 รายการเป็นการลงแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในรูปแบบ Car Club ซึ่งหนุ่มปอมมองว่า
มันเป็นการแข่งขันสำหรับมือใหม่ เป็นรูปแบบ Club Race ที่ไม่ต้องทำรถเยอะ ไม่ต้องมีทีมทำงานคนเดียว เตรียมยางมานิดหน่อยก็แข่งได้แล้ว
กับมุมมองความเป็นไปในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทยปอมคิดเห็นอย่างไร?
           “ผมว่าพัฒนาจากเมื่อก่อนเยอะนะเหมือนทุกคนในวงการช่วยกันส่งเสริมให้มันเป็นกีฬาและเป็นสิ่งที่ถูกต้องมากขึ้น มีการผลักดันคนรุ่นใหม่เข้ามาในวงการมอเตอร์สปอร์ตเพิ่มขึ้นและทำให้วงการนี้สามารถสัมผัสหยิบจับได้ง่ายขึ้น ชนิดไม่ต้องมีเงินถุงเงินถังก็สามารถแข่งรถในสนามได้
 “เพียงมีรถที่สมบูรณ์ 1 คัน ช่วงล่างพร้อม 1 ชุด ยางพร้อม 1 ชุดก็สามารถวิ่ง Club Race ได้แล้วซึ่งประโยชน์ก็คือ ได้ทั้งประสบการณ์และเงินค่าสมัครก็ไม่แพง ผมคิดว่าส่วนสำคัญที่เป็นแรงผลักดันให้วงการ มอเตอร์สปอร์ตโต น่าจะเป็นที่ตัวนักแข่งและผู้สนับสนุนหาก Driver ไม่มีผู้สนับสนุนให้ลงแข่งขันการแข่งขันรายการนั้นๆ ก็จะไม่สมบูรณ์และไม่สามารถเกิดขึ้นได้
การแข่งขันรถยนต์สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันและการทำงานได้หรือไม่?
 “ผมว่าการวางแผนและการเตรียมตัวก่อนเข้าสนาม สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานได้เหมือนกันสำหรับผมการเตรียมตัว การวางแผน และการขยันหมั่นฝึกฝน มีผลทั้งเรื่องการแข่งขันรถยนต์และการทำงาน
ที่มา http://www.thaidriver.com
Share on Google Plus

About Surapong Suksang

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 ความคิดเห็น: